ทำฟันในเด็ก น่ากลัวจริงหรือ!(2)

ทำฟันในเด็ก น่ากลัวจริงหรือ!(2)

ทญ.นราวัลลภ์ เชี่ยววิทย์
งานทันตกรรม
Faculty of Medicine Siriraj Hospital
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

ดูแลฟันเสียแต่เนิ่น ๆ โดย
            • พาไปพบทันตแพทย์ภายใน 6 เดือน ภายหลังจากฟันน้ำนมซี่แรกขึ้น หรืออย่างช้าไม่เกิน อายุ 1 ขวบครึ่ง เพื่อตรวจฟันและรับคำแนะนำในการดูแลรักษาฟัน
            • พบทันตแพทย์ทุก ๆ 6 เดือน เพื่อตรวจประเมินฟันผุ ทำความสะอาดฟัน เคลือบฟลูออไรด์ ทั้งนี้เพื่อให้เด็กเกิดความคุ้นเคยและมีทัศนคติที่ดีต่อการทำฟัน


เตรียมพร้อมก่อนไปพบทันตแพทย์
            เรื่องนี้สำคัญมาก เพราะนอกจากจะต้องเตรียมสภาวะทางกายให้พร้อม ยังต้องเตรียมจิตใจของเจ้าตัวน้อยอีกด้วย ซึ่งผู้ปกครองสามารถช่วยได้โดย
            • หานิทานที่เกี่ยวกับการไปหาทันตแพทย์มาเล่าให้เด็กฟัง เด็กจะได้จินตนาการได้ว่า จะต้องเจอกับสิ่งใดบ้าง
            • เล่นสมมติเกี่ยวกับทันตแพทย์ การทำฟัน ซึ่งจะทำให้เด็กสนุกกับบทบาทสมมตินั้น
            • คุณพ่อคุณแม่อย่าเอาเรื่องทันตแพทย์ที่ทำฟัน ถอนฟันมาขู่ให้เด็กกลัวไปก่อน
            • คุณพ่อคุณแม่ไม่แสดงความกลัวและกังวลใจที่จะต้องพาลูกไปพบทันตแพทย์ เพราะจะทำให้เด็กกลัว และกังวลใจตามไปด้วย


เมื่อถึงวันที่ต้องไปพบทันตแพทย์ คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องกังวล เพราะคุณหมอมีวิธีที่จะจัดการให้เจ้าตัวน้อยไม่กลัวและสนุกกับการทำฟันมากมายเชียวค่ะ

เรื่องน่ารู้

            ในเด็กทารกที่ฟันน้ำนมยังไม่ขึ้นจะยังไม่พบเชื้อ Mutans streptococci ในช่องปาก แต่เมื่อฟันน้ำนมซี่แรกขึ้นก็จะพบว่ามีการติดเชื้อ Mutans streptococci เพิ่มขึ้นตามอายุ ซึ่งแหล่งที่มาของเชื้อส่วนใหญ่มาจากทางตรงโดยการสัมผัสใกล้ชิด เช่น กอดจูบ หรือทางอ้อมโดยผ่านภาชนะที่มีการปนเปื้อนน้ำลายที่มีเชื้ออยู่ ดังนั้น คุณแม่หรือผู้ดูแลเด็กควรมีสุขภาพช่องปากที่ดีด้วย เพื่อลดการส่งผ่านเชื้อแบคทีเรียดังกล่าว
            นอกจากนี้ ควรทำความสะอาดโดยเช็ดช่องปากให้เด็กด้วยผ้าสะอาดชุบน้ำต้มสุก วันละ 2 ครั้ง คือ ช่วงเช้าและก่อนนอน และเริ่มให้แปรงสีฟันขนนุ่มเมื่อฟันน้ำนมซี่แรกขึ้น โดยแปรงฟันให้วันละ 2 ครั้ง นอกจากนี้ควรเลือกนมปราศจากน้ำตาล และป้อนน้ำตามหลังรับประทานอาหารเสริมหรือดูดนมทุกครั้งรวมถึงไม่ควรให้นมลูกเวลานอน เพราะการหลับคาขวดนมมีโอกาสทำให้เกิดฟันผุมากที่สุด นอกจากนี้ควรเลิก “นมมื้อดึก” เมื่อเด็กอายุตั้งแต่ 6 เดือน และสามารถเลิกขวดนมได้เมื่ออายุประมาณ 1 ขวบครึ่ง และเมื่ออายุประมาณ 2 – 6 ปี ควรเริ่มฝึกให้เด็กแปรงฟันเองวันละ 2 ครั้ง ด้วยยาสีฟันฟลูออไรด์ โดยมีผู้ปกครองช่วยแปรงซ้ำในบริเวณที่เด็กแปรงไม่ถึง
            ในกรณีที่เด็กมีฟันหลังเบียดชิดกัน จำเป็นต้องใช้ไหมขัดฟันหลังการแปรงฟันวันละครั้งก่อนนอน และควรลดความถี่และปริมาณในการบริโภคอาหารและเครื่องดื่มประเภทแป้งและน้ำตาล และที่มีความเป็นกรด เช่น น้ำอัดลม โดยจำกัดการรับประทานให้อยู่ในมื้ออาหาร หลีกเลี่ยงการรับประทานจุบจิบ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคฟันผุ

 

 

เอกสารประกอบ

ดาวน์โหลด