จอประสาทตาเปลี่ยนแปลงจากโรคเบาหวาน

จอประสาทตาเปลี่ยนแปลงจากโรคเบาหวาน
และการคัดกรองโรค

รศ.นพ.อภิชาติ สิงคาลวณิช
ภาควิชาจักษุวิทยา
Faculty of Medicine Siriraj Hospital
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

           เบาหวานเป็นโรคที่มีความผิดปกติในการหลั่งฮอร์โมนอินสุลินที่สร้างโดยตับอ่อน หรือมีการสร้างอินสุลินเป็นปกติ แต่ร่างกายไม่สามารถนำอินสุลินไปใช้ได้ มีผลทำให้ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดสูงขึ้น ผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานพบได้เป็น 2 ประเภท คือ ประเภทแรก เกิดเนื่องจากตับอ่อนไม่สามารถสร้างฮอร์โมนได้ตามปกติ เบาหวานกลุ่มนี้พบได้มากในเด็กและวัยรุ่น ประเภทที่สอง เกิดเนื่องจากร่างกายไม่สามารถนำอินสุลินที่หลั่งโดยตับอ่อนไปใช้ได้ เบาหวานชนิดนี้มักพบในผู้ใหญ่ โดยพบได้ประมาณร้อยละ 90 ของเบาหวานทั้งหมด สาเหตุของโรคเบาหวานเกิดจากหลายปัจจัยร่วมกัน เช่น มีความผิดปกติในยีน เป็นกรรมพันธุ์ หรือมีปัจจัยจากสิ่งแวดล้อม

อาการของโรคเบาหวานที่พบได้ คือ ปัสสาวะบ่อย กระหายน้ำ น้ำหนักลด เหนื่อยง่าย แต่ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานอาจไม่แสดงอาการเหล่านี้ และจะทราบต่อเมื่อเกิดโรคแทรกซ้อนแล้ว การวินิจฉัยโรค โดยการตรวจระดับน้ำตาลในเลือด

โรคแทรกซ้อนที่สำคัญในผู้ป่วยเบาหวาน คือ
1. จอประสาทตาเปลี่ยนแปลงจากโรคเบาหวาน เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดตาบอดและสายตาพิการ
2. ไตวาย เกิดเนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงที่หลอดเลือดฝอยที่ไต ทำให้ไตไม่สามารถทำหน้าที่ได้ตามปกติ
3. โรคหัวใจ พบว่าเป็นสาเหตุของการตายในผู้ป่วยเบาหวานถึงร้อยละ 50
4. ประสาทเปลี่ยนแปลงจากเบาหวาน มีการชาตามปลายมือ ปลายเท้า
5. เท้าเป็นแผล เกิดจากความผิดปกติในหลอดเลือดและปลายประสาทที่เท้า ทำให้เท้าชา เกิดแผลเรื้อรัง เป็น

สาเหตุสำคัญที่ทำให้ต้องตัดขา
ผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานประมาณร้อยละ 50 ไม่ทราบว่าตนเองเป็นโรค ผู้ป่วยที่เป็นเบาหวาน 15 ปี มีร้อยละ 2 ที่เกิดตาบอด และร้อยละ 10 ที่มีสายตาเลือนลาง การที่มีประชากรอายุเพิ่มมากขึ้น และอายุยืนยาวขึ้นทำให้มีโอกาสพบผู้ป่วยที่มีสายตาพิการและตาบอด จากโรคเบาหวานมากขึ้นเรื่อย ๆ  การเปลี่ยนแปลงที่จอประสาทตาจากโรคเบาหวาน เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดตาบอดหากไม่ได้รับการรักษา การเปลี่ยนแปลงในระยะแรก จะพบการโป่งพองของหลอดเลือดฝอย เห็นเป็นจุดสีแดงเล็ก ๆ ที่จอประสาทตา พบไขมันที่รั่วมาจากหลอดเลือดเห็นเป็นก้อนสีเหลือง พบเลือดออกในจอประสาทตา และพบเส้นใยประสาทตาบวม เห็นเป็นก้อนสีขาวเหมือนปุยนุ่น การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้สามารถตรวจดูได้โดยใช้กล้องตรวจจอประสาทตา ผู้ป่วยเบาหวานหากเป็นนานขึ้นจะพบเส้นเลือดผิดปกติ และเกิดเยื่อพังผืดขึ้นที่จอประสาทตา เยื่อพังผืดเหล่านี้จะดึงทำให้จอประสาทตาลอก ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ตาบอด
การป้องกันมิให้โรคลุกลามมากขึ้น คือ เมื่อพบว่ามีเส้นเลือดผิดปกติแพทย์จะใช้แสงเลเซอร์รักษาจี้ไปยังประสาทตา เพื่อทำให้เส้นเลือดฝ่อ เป็นการหยุดการเปลี่ยนแปลงของโรค
ดังนั้นการตรวจหาการเปลี่ยนแปลงที่จอประสาทตา ในระยะแรกเริ่มจึงมีความสำคัญ การตรวจคัดกรองดูจอประสาทตา ส่วนใหญ่แพทย์จะทำการตรวจนัยน์ตาโดยการหยอดยาขยายม่านตา และใช้กล้องตรวจจอประสาทตา การตรวจพบเส้นเลือดฝอยโป่งพอง จุดเลือดออก หรือก้อนไขมันคั่ง ทำให้ทราบว่าจอประสาทตาเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงจากเบาหวาน แพทย์จะนัดผู้ป่วยมาตรวจเป็นระยะ ๆ และสามารถให้การรักษาโดยแสงเลเซอร์ ก่อนที่จะเกิดพังผืดดึงรั้งให้จอประสาทตาลอก

           ปัจจุบันวิทยาการทางการแพทย์ เจริญมากขึ้นมีการประดิษฐ์กล้องถ่ายภาพจอประสาทตาในระบบดิจิตอล สามารถถ่ายภาพจอประสาทตาและแสดงภาพได้ทันที ทำให้มีความแม่นยำในการวินิจฉัยทางภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ร่วมกับ ดร.จันจิรา สินทนะโยธิน และคณะ จากศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ( NECTEC ) ได้ศึกษาวิจัยถึงการนำโปรแกรมคอมพิวเตอร์มาใช้คัดกรองจอประสาทตาเปลี่ยนแปลงจากโรคเบาหวานโดยอัตโนมัติ โดยได้รวบรวมข้อมูลผู้ป่วยเบาหวาน และสร้างโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เพื่อใช้เชื่อมโยงกับกล้องถ่ายภาพจอประสาทตา จากการนำผู้ป่วยมาถ่ายภาพจอประสาทตาและให้โปรแกรมคอมพิวเตอร์วินิจฉัยภาพโดยอัตโนมัติ ดูว่าผู้ป่วยมีการเปลี่ยนแปลงที่จอประสาทตาจากเบาหวานหรือไม่ การวิจัยพบว่าโปรแกรมที่สร้างขึ้นสามารถตรวจสอบความผิดปกติและมีประโยชน์ทางด้านคลินิก คณะผู้วิจัยกำลังพัฒนาโปรแกรมเพื่อให้มีความแม่นยำในการวินิจฉัยมากขึ้น และสามารถใช้กับกล้องถ่ายภาพจอประสาทตาชนิดต่าง ๆได้ ซึ่งคาดว่าจะมีการนำโปรแกรมมาใช้แพร่หลายในอนาคต

 

เอกสารประกอบ

ดาวน์โหลด