ตรวจภายใน
ตรวจภายใน
รศ.พญ.มานี ปิยะอนันต์
ภาควิชาสูติศาสตร์ - นรีเวชวิทยา
Faculty of
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
อะไรคือตรวจภายใน และทำไปทำไม ยังคงเป็นคำถามคาใจของใครหลายคน เรื่องที่จะคุยกันต่อไปนี้ เป็นเรื่องที่คุณผู้หญิงไม่ว่าจะยุค 2000 หรือ ยุคไหน ๆ ควรจะมีความรู้ความเข้าใจเป็นอย่างดี สำหรับคุณผู้ชายจะรู้ไว้ก็ไม่เสียหายนะคะ เผื่อจะได้บอกคุณผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ
ตรวจภายในไม่ใช่ตรวจข้างใน เพียงอยากให้เข้าใจให้ตรงกันตั้งแต่ต้นก่อน คำๆนี้ คนไทยเราใช้ให้สุภาพ ฟังดูแล้วบางคนเข้าใจไปว่าเป็นการตรวจร่างกายส่วนที่อยู่ข้าง ใน เช่น ปอด หัวใจ ตับ ไต เป็นต้น ซึ่งที่จริงแล้วคือการ "ตรวจทางช่องคลอด" นั่นก็ หมายความว่าเป็นการตรวจอวัยวะของระบบสืบพันธุ์ในสตรีนั่นเอง ถึงตอนนี้คงมีคน ถึงบางอ้อแล้วซิคะ
เวลาที่เขาจะตรวจกัน คุณผู้หญิงส่วนใหญ่โดยเฉพาะที่ยังไม่เคยตรวจจะขวยเขิน อาย หรือไม่ก็กลัวไปเลย แต่ถ้ารู้แล้วจะรู้สึกสบายใจ ซึ่งจะทำให้ร่วมมือในการตรวจ อย่างดี หมอก็สามารถตรวจได้อย่างละเอียดลออค่ะ ในการตรวจนั้นมีการปกปิดกัน อย่างมิดชิด เปิดเฉพาะส่วนที่จะตรวจเท่านั้น
อวัยวะที่อยู่ในระบบสืบพันธุ์ของสตรี ถ้าเราไล่จากข้างนอกเข้าไปข้างในก็จะมี ปากช่องคลอด ช่องคลอด ปากมดลูก มดลูก ปีกมดลูก และรังไข่ ธรรมชาติของการ สืบพันธุ์เริ่มจาก รังไข่ของผู้หญิงสร้างไข่ ตกไข่ออกมา 1 ฟองทุกเดือน ไข่นี้ก็จะเข้ามา ยังท่อนำไข่แล้วหยุดคอยตัวอสุจิอยู่ตรงนี้ เมื่อมีการร่วมเพศตัวอสุจิหลายสิบล้าน หรือ เป็นร้อยล้านตัว จะถูกปล่อยออกมา ตรงบริเวณปากมดลูก ตัวอสุจิจำนวนหนึ่งจะเข้า ปากมดลูก ว่ายน้ำเข้าไปในโพรงมดลูกขึ้นไปยังท่อนำไข่ เพื่อหาไข่ซึ่งคอยอยู่อสุจิ เพียงตัวเดียวเท่านั้นที่จะเกิดการปฎิสนธิ เป็นตัวอ่อนเคลื่อนลงมายังโพรงมดลูก เติบโต ในโพรงนี่จนครบ 9 เดือน และคลอดมาชมโลกภายนอก
ดังนั้น การตรวจภายในจึงอาศัยการดูส่วนที่มองเห็นได้ คือปากช่องคลอด ช่องคลอด และปากมดลูกและอาศัยการคลำส่วนที่มองไม่เห็นคือ มดลูก และปีกมดลูก โรคที่สามารถตรวจพบได้บ่อย ๆ คือ การติดเชื้อ เนื้องอก และมะเร็ง
หลังจากนอนขึ้นขาหยั่งพร้อมที่จะตรวจแล้ว หมอจะดูลักษณะทั่ว ๆ ไป ภายนอก ก่อนว่ามีความผิดปกติอะไรหรือไม่เช่น ผื่นแผล ติ่งเนื้อ หรือก้อน การดูในช่องคลอด หมอจำเป็นต้องสอดเครื่องมือเข้าไปในช่องคลอด เพื่อถ่างเปิดช่องคลอดให้เห็นว่ามีตก ขาว เลือด แผล เนื้องอกหรือไม่ ถ้ามีตกขาวก็ดูว่าสีกลิ่นปริมาณผิดปกติหรือเปล่า ส่วน ท ีอยู่ลึกที่สุดที่มองเห็นได้คือปากมดลูก ก็จะดูว่ามีแผล อักเสบ หรือมีมะเร็งหรือไม่
หมอก็จะถือโอกาสในช่วงนี้ตรวจมะเร็งปากมดลูกให้ ซึ่งก็ไม่ยุ่งยากสำหรับหมอ และก็ไม่เจ็บสำหรับคุณผู้หญิงด้วย โดยใช้เครื่องมือป้ายเอา น้ำในช่องคลอด ขูดผิว ปากมดลูก และช่องภายในปากมดลูก ไปลงแผ่นกระจก และถูกแช่น้ำยา ย้อมสี และส่องกล้องตรวจหาเซลล์มะเร็งต่อไป ประมาณ 3-7 วัน ก็จะรู้ผล ตรวจมะเร็งนี้
ต่อจากนี้หมอต้องตรวจโดยการคลำผ่านทางช่องคลอด โดยสอดนิ้วชี้ในช่อง คลอดแทน ส่วนอีกมือหนึ่งของหมอจะกด ท้องน้อย เพื่อหาความผิดปกติของอวัยวะ สืบพันธุ์ที่เหลือซึ่งอยู่ภายในอุ้งเชิงกราน คุณผู้ หญิงที่ท้องผูกเป็นนิสัย หมอก็มักจะคลำ พบก้อนอุจจาระในลำไส้ใหญ่ซึ่งอยู่ด้านหลังได้ ด้วย แค่นี้ก็เสร็จพิธีการแล้วค่ะ
ที่ต้องตรวจภายในนั้น หมอมีเหตุผลอยู่สองอย่างคือ
อย่างแรก เพื่อตรวจสุขภาพ โดยการตรวจเช็คมะเร็ง ในสตรีที่แต่งงานแล้วควร ตรวจเช็คมะเร็งทุกปี แต่บางรายหมออาจจะต้องนัดมาตรวจทุก 3-6 เดือนก็ได้ ถ้าพบ ว่ามีการอักเสบเรื้อรังที่ปากมดลูกหรือสงสัยว่าจะมีเซลล์ผิดปกติเกิดขึ้น สตรีที่ไม่มี อาการอะไรเมื่อถึงอายุ 40-45 ปี ก็เช็คได้แล้วนะคะ สำหรับมะเร็งปากมดลูก หมอ สามารถตรวจพบได้ตั้งแต่เพิ่งเริ่มต้นเป็น จึงทำให้หมอ สามารถรักษามะเร็ง ชนิดนี้ ให้หายขาดได้ก็เนื่องจากเราตรวจภายใน เช็คมะเร็ง ประจำปีนี่เอง
อย่างที่สอง เพื่อตรวจหาสาเหตุของอาการของโรคทางนรีเวช เช่น มีตกขาวมาก มีกลิ่นเหม็น มีเลือดออกไม่ตรงกับประจำเดือน มีเลือดประจำเดือนออกนานเกิน 7 วัน คลำได้ก้อนที่อวัยวะเพศ คลำได้ก้อนในท้องน้อย หรือมีแผลที่อวัยวะเพศเป็นต้น
คุณผู้หญิงคะ เวลามาตรวจภายใน หมออยากจะให้เล่าความจริงให้หมอฟังนะคะ เพื่อหมอจะได้วินิจฉัยได้ถูกต้อง เพราะโรคบางอย่างมีอาการของโรคคล้าย ๆ กัน เช่น กรณีที่เลือดออกผิดปกติ อาจมีสาเหตุมาจากเยื่อบุมดลูกผิดปกติ เนื้องอกในมดลูก ช่องคลอดอักเสบ ปากมดลูกเป็นมะเร็ง หรือเกิดจาการท้องนอกมดลูก หรือแท้งบุตร เป็นต้น ดังนั้นเมื่อหมอขอตรวจภายในก็ควรจะปฏิบัติตาม แม้ว่าจะยังไม่เคยมีเพศ สัมพันธ์มาก่อน สตรีที่เคยมีเพศสัมพันธ์มาแล้วจะตรวจไม่เจ็บ สตรีที่ยังไม่เคยมีเพศ สัมพันธ์จะรู้สึกตึง ๆ หรือเจ็บบ้างเล็กน้อย เพราะขนาดของเครื่องมือจะเล็กกว่าที่ใช้กับ คนที่เคยมีเพศสัมพันธ์แล้ว ดังนั้นไม่ต้องกลับเจ็บนะคะ
ตอนนี้คงมีคนอยากจะให้ตรวจภายในบ้างแล้วซิคะ จะต้องเตรียมตัวอย่างไรหรือคะ
1. เตรียมใจ เพราะเมื่อจำเป็นต้องมาตรวจมักจะอายมาโรงพยาบาลเสียเวลาแล้ว ก็ควรจะตรวจ
2. ถ่ายอุจจาระมาก่อน คนที่รู้ตัวว่าท้องผูกมาก ควรรับประทานยาระบายมาก่อน สัก 2-3 วัน
3. ไม่ต้องโกนขน เพราะมีผลเสียเช่น ทำให้หมอวินิจฉัยโรคทางพันธุกรรมบางอย่าง ไม่ได้ เพราะต้องอาศัยดูจากขนด้วย หรือทำให้รู้สึกเจ็บเวลาขนขึ้นใหม่เพราะแข็ง
4. นุ่งกระโปรงมาตรวจไม่นุ่งกางเกง
หวังว่าคุณๆ ทั้งหญิงและชายที่อ่านจบคงเข้าใจ และรู้สึกจำเป็นแล้วนะคะ รีบมา ตรวจเสียแต่เนิ่นๆ มะเร็งร้ายเรายังพิชิตมันได้ด้วยการตรวจชนิดนี้ อย่าอายมาก นะคะ