โรคกล้ามเนื้อคอหดเกร็ง

โรคกล้ามเนื้อคอหดเกร็ง

ผศ.นพ.ปัญญา ลักษณะพฤกษา

ภาควิชาศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิคส์และกายภาพบำบัด
Faculty of Medicine Siriraj Hospital
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

            อาการปวดคอ ไหล่ติด สะบักจม อย่าคิดว่าเป็นแค่การเมื่อยล้าจากการทำงาน ซึ่งอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าคุณเป็นโรคกล้ามเนื้อคอหดเกร็ง  หากปล่อยทิ้งไว้อาจก่อให้เกิดอันตรายได้  รายละเอียดเป็นอย่างไร มาหาคำตอบกัน

            โรคกล้ามเนื้อคอหดเกร็ง เป็นโรคที่เกิดจากความไม่สมดุลระหว่างกล้ามเนื้อและการใช้งาน  โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่มักมีการใช้งานซ้ำ ๆ  ในท่ากางแขน เขียน หรือ ก้มคอจากการพิมพ์งานคอมพิวเตอร์ การใช้งานซ้ำ ๆ โดยปราศจากการยืด เหยียดกล้ามเนื้อจะทำให้กล้ามเนื้อมีการหดเกร็ง จนกระทั่งมีอาการปวดร้าวไปที่คอ แขน ไหล่ หลัง หรือบ่า

            ผู้ป่วยอาจจะพบว่ามีกล้ามเนื้อบริเวณคอ บ่า ไหล่ และหลังเกร็งตัวขึ้นเป็นก้อน และมีอาการปวดร้าวไปยังบริเวณใกล้เคียงคอ บ่า ไหล่ หรือหลัง อาการเหล่านี้จะมีอาการคล้ายโรคหมอนรองกระดูกกดเบียดเส้นประสาท เบื้องต้นแนะนำให้ผู้ป่วยรับประทานยาแก้ปวด ยืดเหยียดกล้ามเนื้อเบื้องต้น โดยทั่วไปหากอาการไม่ดีขึ้นแนะนำให้พบแพทย์ ในผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาหรือดูแลไม่ถูกต้องจะทำให้เกิดอาการปวดเรื้อรังจนกระ ทั่งมีผลต่อการดำรงชีวิต

แนวทางการรักษาโรคกล้ามเนื้อหดเกร็ง ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบ
          1.
เมื่อมีอาการปวด แนะนำให้รับประทานยาแก้ปวด ทำกายภาพบำบัด โดยใช้ความร้อน การกระตุ้นไฟฟ้า เพื่อให้กล้ามเนื้อที่เกร็งมีการคลายตัว รวมถึงการฝังเข็ม หรือมีการฉีดยาบริเวณกล้ามเนื้อที่มีอาการหดเกร็งคลายตัวออก
            2. แนะนำให้มีการทำกายภาพบำบัด โดยเน้นการยืดเหยียดกล้ามเนื้อและสร้างความ
แข็งแรง เพื่อให้กล้ามเนื้อมีความทนทานในการใช้งานมากขึ้น
            3. แนะนำให้มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและตำแหน่งการใช้งาน เช่น การปรับเปลี่ยน
ตำแหน่งโต๊ะทำงาน คีย์บอร์ด เพื่อให้ตำแหน่งของคอ แขน ไหล่ หลัง บ่า อยู่ในตำแหน่งที่สมบูรณ์

เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดโรคกล้ามเนื้อคอหดเกร็ง โดยเฉพาะกล้ามเนื้อส่วน คอ บ่า ไหล่ มีท่าบริหารง่าย ๆ มาฝากท่าบริหารเหล่านี้ จะเป็นการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ ซึ่งทุกท่าจะทำค้างไว้ประมาณ 5 -10 วินาที ได้แก่
            1. ประสานมือไว้และเหยียดไปด้านหน้าให้สุด
            2. ยืดขึ้นด้านบน ค้างไว้จนกล้ามเนื้อยืดตึง
            3. เอี้ยวไปทางด้านซ้ายและค้างไว้
            4. เอี้ยวไปทางด้านขวาและค้างไว้
            5. เอามือข้างนึงแตะบ่าอีกข้างนึง แล้วดันข้อศอก พร้อมหันศีรษะไปด้านบ่า

 

เอกสารประกอบ

ดาวน์โหลด