เลือกใช้ยาสเตียรอยด์พ่นจมูก…...ชนิดไหนดี

เลือกใช้ยาสเตียรอยด์พ่นจมูก…...ชนิดไหนดี

รศ.นพ. ปารยะ  อาศนะเสน
ภาควิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา
Faculty of Medicine Siriraj Hospital
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

โรคจมูกอักเสบภูมิแพ้  ถ้าไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง จะเกิดโรคอื่นๆตามมาได้ เช่น ไซนัสอักเสบ, โรคหืด, เจ็บคอเรื้อรัง, ริดสีดวงจมูก, หูชั้นกลางอักเสบ, อาการนอนกรน และ/หรือ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ  ยาสเตียรอยด์พ่นจมูก (intranasal steroids) เป็นยาที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดในการควบคุมอาการคันจมูก, จาม, คัดแน่นจมูก, น้ำมูกไหล รวมทั้งอาการทางตาของผู้ป่วยโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ ในปัจจุบันมี
ยาสเตียรอยด์พ่นจมูกที่จำหน่ายในประเทศไทย
7 ชนิดคือ
                        -  Beclomethasone dipropionate
                        -  Budesonide
                        -  Fluticasone propionate
                        -  Triamcinolone acetonide
                        -  Mometasone furoate
                        -  Fluticasone furoate 
                        -  Ciclesonide
            เนื่องจากมียาสเตียรอยด์พ่นจมูกหลายชนิด การที่แพทย์จะเลือกชนิดของยาดังกล่าวให้ผู้ป่วย แพทย์มักจะคำนึงถึงปัจจัยหลายๆด้าน เช่น
            ราคา  ยาสเตียรอยด์พ่นจมูกแต่ละชนิด มีราคาแตกต่างกัน ยาชนิดใหม่ มักจะมีราคาแพงกว่า ยาชนิดเก่า
            ความปลอดภัย  สิ่งที่แพทย์กังวลเกี่ยวกับการใช้ยาสเตียรอยด์พ่นจมูกคือ การดูดซึมของยาเข้าสู่กระแสเลือด แล้วอาจไปมีผลทั่วร่างกาย หรือกดการเจริญเติบโตโดยเฉพาะในเด็ก ยาสเตียรอยด์พ่นจมูกชนิดใหม่ๆ จะมีการดูดซึมเข้าสู่กระแสโลหิตได้น้อย เช่น
ciclesonide, fluticasone furoate, mometasone furoate, fluticasone propionate  ต่างจากยาชนิดเก่า (beclomethasone dipropionate, budesonide) ซึ่งจะมีการดูดซึมเข้าสู่กระแสโลหิตได้มาก ดังนั้นในเด็ก ซึ่งแพทย์กลัวยาที่ดูดซึมเข้าไปจะมีผลต่อการเจริญเติบโต  แพทย์มักเลือกใช้ยาชนิดใหม่ หรือชนิดที่มีการดูดซึมเข้าสู่กระแสโลหิตได้น้อย
            การใช้ยาในเด็ก นอกจากจะเลือกใช้ยาชนิดที่มีการดูดซึมเข้าสู่กระแสโลหิตได้น้อย ควรใช้ในขนาดที่แนะนำ และใช้เป็นระยะเวลาสั้นที่สุด หรือเท่าที่จำเป็น และหยุดใช้ เมื่อหมดข้อบ่งชี้   นอกจากนั้นอายุต่ำสุดของผู้ป่วยที่ได้รับการรับรองโดยองค์การอาหารและยาของประเทศไทยว่าให้ใช้ ยาสเตียรอยด์พ่นจมูกได้ ก็สำคัญ เช่น ควรใช้
ciclesonide ในเด็กที่มีอายุมากกว่าหรือเท่ากับ 12 ปีขึ้นไป   ควรใช้ budesonide และ beclomethasone dipropionate  ในเด็กที่มีอายุมากกว่าหรือเท่ากับ 6 ปี   ควรใช้ fluticasone propionate ในเด็กที่มีอายุมากกว่าหรือเท่ากับ 4 ปี  ควรใช้ mometasone furoate, triamcinolone acetonide, fluticasone furoate  ในเด็กที่มีอายุมากกว่าหรือเท่ากับ 2 ปี
            ประสิทธิภาพ  ความสามารถของยาสเตียรอยด์ในการจับกับตัวรับ เป็นตัวแปรที่เชื่อว่ามีความสัมพันธ์กับ ประสิทธิภาพของยา โดยยาที่มีความสามารถในการจับกับตัวรับสูง เชื่อว่ามีประสิทธิภาพในการรักษาสูง เช่น
fluticasone furoate มีความสามารถในการจับกับตัวรับสูงสุด เมื่อเปรียบเทียบกับยา ชนิดอื่นๆ ระยะเวลาที่ใช้ในการออกฤทธิ์ (onset of action) ก็มีส่วนสำคัญ สำหรับการคำนึงถึงประสิทธิภาพของยา  ยาสเตียรอยด์พ่นจมูกชนิดใหม่ๆ จะมีระยะเวลาที่ใช้ในการออกฤทธิ์สั้น หรือออกฤทธิ์เร็ว เช่น ciclesonide ออกฤทธิ์ภายใน 1 ชั่วโมง  fluticasone furoate ออกฤทธิ์ภายใน 8 ชั่วโมง
            ความร่วมมือและความชอบในการใช้ยาของผู้ป่วย เมื่อพ่นยาสเตียรอยด์พ่นจมูกเข้าไปในโพรงจมูก ปัญหาของยาที่ไหลออกมาจากโพรงจมูก (
nose run out) หรือไหลลงคอ (throat run down) เป็นปัญหาสำคัญที่มีผลต่อความร่วมมือและความชอบในการใช้ยาของผู้ป่วย ถ้าปริมาตรของยาสเตียรอยด์ที่พ่นเข้าไปในโพรงจมูกน้อย ก็จะมีปัญหาดังกล่าวน้อย ซึ่ง budesonide และ fluticasone furoate มีปริมาตรของยาที่พ่นเข้าไปในโพรงจมูกน้อยที่สุด จึงมีปัญหาของยาที่ไหลออกมาจากโพรงจมูก หรือไหลลงคอน้อยกว่ายาชนิดอื่นๆ นอกจากนั้นสารที่เติมลงไปในขวดของ ยาสเตียรอยด์พ่นจมูก (เช่น benzalkonium chloride, potassium sorbate, alcohol, polysorbate, propylene glycol) ก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้ผู้ป่วยชอบหรือไม่ชอบใช้ยาแต่ละชนิดด้วย      
          ดุลยพินิจและประสบการณ์ของแพทย์ผู้สั่งยา
โดยเฉพาะเรื่องสิทธิในการรักษาของผู้ป่วย
            ข้อบ่งชี้   ข้อบ่งชี้ในการใช้ยาสเตียรอยด์พ่นจมูกจะคล้ายๆ กัน คือ ใช้ในผู้ป่วยโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ แต่ยาสเตียรอยด์พ่นจมูกบางชนิดจะมีข้อบ่งชี้พิเศษ เช่น ใช้รักษาไซนัสอักเสบ (
mometasone furoate), ริดสีดวงจมูก (beclomethasone dipropionate, budesonide, mometasone furoate), อาการปวดหรือตื้อๆ บริเวณไซนัส (fluticasone propionate), อาการคัดจมูกที่เกิดจากโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ (mometasone furoate), โรคตาอักเสบภูมิแพ้ (fluticasone furoate)
            หลักฐานเชิงประจักษ์ จากการศึกษาพบว่ายาสเตียรอยด์พ่นจมูกแต่ละชนิดนั้น ไม่มีความแตกต่างในเรื่องประสิทธิภาพในการรักษาโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ ทางคลินิกอย่างมีนัยสำคัญ
            ดังนั้น การเลือกใช้ยาสเตียรอยด์พ่นจมูก นั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ปัจจัยของตัวโรคเอง, ปัจจัยเกี่ยวกับตัวผู้ป่วย และปัจจัยเกี่ยวกับตัวแพทย์เอง โดยควรคำนึงถึงหลายๆ ด้าน   ยาสเตียรอยด์พ่นจมูก เป็นยาที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการรักษาโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ในปัจจุบัน  ผู้ป่วยโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ควรใช้ยาสเตียรอยด์พ่นจมูกก็ต่อเมื่อ ประโยชน์จากการใช้ยาดังกล่าว มากกว่าอัตราเสี่ยงหรือผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้  ซึ่งผลข้างเคียงของยาสเตียรอยด์พ่นจมูกนั้นน้อยมาก และการใช้ยาดังกล่าวในระยะยาว ค่อนข้างปลอดภัย ถ้าใช้อย่างเหมาะสม


เอกสารประกอบ

ดาวน์โหลด