แพ้เครื่องสำอาง
แพ้เครื่องสำอาง
รศ.พญ.วรัญญา บุญชัย
ภาควิชาตจวิทยา
Faculty of Medicine Siriraj Hospital
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
ปัจจุบันพบว่าค่าเฉลี่ยของการใช้เครื่องสำอาง ตกอยู่ที่ 7-12 ชนิดต่อคน ฉะนั้นเราจึงพบปัญหาผลอันไม่พึงประสงค์จากเครื่องสำอางได้บ่อย ในความหมายของประชาชนทั่วไปแพ้เครื่องสำอาง จะเหมารวมทั้งหมดของผลอันไม่พึงประสงค์จากเครื่องสำอาง เช่น การระคายเคืองที่เกิดจากการใช้เครื่องสำอางที่ไม่เหมาะสมกับชนิดของผิวหนังของผู้ใช้เอง หรือการเป็นพิษจากเครื่องสำอางที่ไม่ได้มาตรฐาน มีสารต้องห้ามเจือปนเช่นสารปรอท สารตะกั่ว หรือสารไฮโดรควิโนน เป็นต้น การเกิดสิวอุดตัน และรวมถึงการเกิดผื่นแพ้สัมผัสจากการแพ้(จริงๆ) จากส่วนประกอบในเครื่องสำอาง มีการศึกษาพบว่า ร้อยละ10 ของประชากร ต้องเกิดผลอันไม่พึงประสงค์จากเครื่องสำอางครั้งหนึ่งในชีวิต ผู้หญิงประสบปัญหานี้บ่อยกว่าผู้ชายอาจเป็นเพราะ ใช้เครื่องสำอางมากกว่าและบ่อยกว่า
ผื่นระคายเคืองที่เกิดจากการใช้เครื่องสำอาง
ผื่นแพ้สัมผัสจากเครื่องสำอาง
สารก่อภูมิแพ้ที่พบได้รองๆลงมาเช่น แพ้ ester gum ใน lipstick หรือ hair remover strips แพ้ soy bean oil ในแชมพู, eyeshadow, lipstick แพ้สารทำฟอง (cocamidopropyl betaine) ในสบู่เหลว แชมพู น้ำยาล้างจาน น้ำหอม กลิ่นหอมเป็นสารก่อภูมืแพ้ซึ่งพบได้สูงสุดเหมือนกันทั่วโลก มีทั้งกลิ่นสกัดจากธรรมชาติแท้ๆ และกลิ่นสังเคราะห์ มีใช้กัน มากกว่า 5000 กลิ่น
ผลอันไม่พึงประสงค์อื่นๆจากเครื่องสำอาง
เครื่องสำอางอาจก่อให้เกิดสิวได้ 2 ลักษณะ คือสิวอุดตัน และสิวอักเสบ ขึ้นกับส่วนประกอบของเครื่องสำอางนั้นๆและ การอุดตันรูขุมขนของเครื่องสำอางเอง ส่วนมากมักจะพบหลังจากใช้ไปสักระยะหนึ่งก่อน ไม่ใช่ทันทีที่ใช้ วันสองวัน ในคนที่เป็นสิวง่าย การเลือกใช้เครื่องสำอางประเภท water-based หรือ oil-free ก็จะมีโอกาสก่อสิวได้น้อยกว่า